สรรพคุณและประโยชน์ของแครนเบอร์รี่

แครนเบอร์รี่ (Cranberries)

เป็นผลไม้ที่ปลูกในแถบอเมริกาและแคนาดา หรือประเทศเมืองหนาว ซึ่งคนในท้องถิ่นที่ปลูกแครนเบอร์รี่ เชื่อว่าเป็นผลไม้ที่จะช่วยให้อายุยืน คงความเป็นหนุ่มสาวได้ยาวนาน ปัจจุบันแครนเบอร์รี่จึงเป็นผลไม้ที่อยู่ในวิตามินบำรุง และผลิตภัณฑ์เสริมความงามมากมาย ตามมาดูสรรพคุณและประโยชน์ในด้านต่างๆ ของแครนเบอร์รี่

สรรพคุณและประโยชน์ของแครนเบอร์รี่

แก้โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย จึงมีสรรพคุณต่อกรกับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากในแครนเบอร์รี่มีสารหลายชนิด โดยเฉพาะสารแทนนิน ที่ช่วยหยุดการเกาะตัวของแบคทีเรียอี โคไล ที่บริเวณผนังทางเดินปัสสาวะ คนที่เป็นโรคนี้ให้ดื่มน้ำแครนเบอร์รี่เข้มข้น ไม่มีน้ำตาลแก้วละ 250 มิลลิลิตรทุกวัน วันละ 3 แก้ว ถ้าจิบวันละ 1 แก้วจะช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นโรคนี้ได้อีก หรือรับประทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากแครนเบอร์รี่วันละ 800 มิลลิกรัมก็จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยขจัดกลิ่นในปัสสาวะได้ด้วย

ประโยชน์ของแครนเบอร์รี่กับการแก้หวัด

แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง จึงช่วยป้องกันไข้หวัด และโรคต่างๆ ที่มาพร้อมอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้เหมาะที่จะนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ปั่นแก้หวัด แก้เจ็บคอ แก้ร้อนใน และบรรเทาปวด เป็นผลไม้ที่จะช่วยเติมความสดใส ช่วยให้ฟื้นไข้ได้เร็วขึ้น และยังเป็นผลไม้ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย กินแก้ไข้หวัดนอกจากจะได้ภูมิต้านทานที่แข็งแรงจากวิตามินซีแล้วยังช่วยเพิ่มความสดชื่นด้วยรสเปรี้ยวๆ และกลิ่นหอมๆ ของแครนเบอร์รี่ได้อีกด้วย

เป็นผลไม้ที่ลดคอเลสเตอรอล และป้องกันหลอดเลือดตีบ/อุดตันได้

แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้ตระกลูเบอร์รี่ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่ม ฟลาโวนอล (Flavonols) และโปรแอนโธไซยานิดิน (Proanthocyanidins) ช่วยยับยั้งสาเหตุของหลอดเลือดตีบและอุดตันได้ เนื่องจากสามารถเหนี่ยวนำให้ตัวรับไขมันที่ตับทำงานมากขึ้น เป็นผลทำให้เพิ่มการขับออกของไขมันจากระบบไหลเวียนของเลือด และเพิ่มการนำคอเลสเตอรอลเข้าสู่เซลล์ตับเพื่อขับออกได้ ทำให้ลดคอเลสเตอรอลได้นั่นเอง

ทำให้ผิวพรรณและริมฝีปากเนียนนุ่มชุ่มชื่น

แครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซี และแอนตี้ออกซิเดนท์จำนวนมากที่ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่น จึงเหมาะที่จะนำไปทำเป็นลิปมัน เพื่อป้องกันริมฝีปากแห้งแตกในช่วงหน้าหนาว โดยนำแครนเบอร์รี่ 10 ผลผสมกับน้ำมันสวีทอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา น้ำมันวิตามินอี 1 หยด ไปต้มจนเดือด นำส่วนผสมที่ได้ไปบดให้ละเอียดผ่านกระชอน เสร็จแล้วทิ้งไว้ให้เย็น นำมาทาเวลาปากแห้ง

การรับประทานแครนเบอร์รี่ ทั้งแบบสดและแบบเครื่องดื่มสกัดมีข้อควรระวังคือไม่ควรรับประทานมากเกินไป เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่าการรับประทานน้ำแครนเบอร์รี่มากกว่าวันละ 1.42 ลิตร มีผลทำให้มีโอกาสเลือดออกภายในได้ แต่หากรับประทานแต่น้อยจะไม่มีอันตราย แต่อย่างใด

ขอบคุณที่มา health.kapook.com
sukkaphap-d.com